เนื้อจากพืช อาจเติบโตได้ แต่ไม่สามารถทดแทนเนื้อจริงได้ในตอนนี้

ในระเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เราทุกคนในฐานะผู้เล่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารน่าจะเคยได้ทราบการเข้ามาของ ‘Plant-based’ หรือ ผลิตภัณฑ์จากพืชซึ่งรวมถึงเนื้อจากพืช นมจากพืช กันมาบ้างแล้ว แล้ว ณ วันนี้ตลาดนี้ก้าวมาอยู่จุดไหน จะเข้ามาทดแทนเนื้อสัตว์จริงได้มากน้อยเพียงใด และก้าวถัดไปของนักพัฒนาคืออะไร เวทมอร์จะเล่าให้ฟัง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019-2020 อุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารต่างตื่นตัวกับการมาของ ‘Plant-based’ หรือผลิตภัณฑ์จากพืช โดยเฉพาะเนื้อจากพืช จากกระแสสุขภาพที่มาแรง ประกอบกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ก้าวกระโดดที่ทำให้รสชาติและหน้าตาของเนื้อจากพืชนั้นใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริงมากขึ้น ทำให้เนื้อจากพืชนี้ถูกคาดหวังว่าจะเข้าไปทดแทนการบริโภคเนื้อสัตว์จริงไม่มากก็น้อย และถูกคาดการณ์ไว้ว่า มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์จากพืชทั่วโลกราว 200,000 ล้านบาทในปี 2020 จะเติบโตต่อเนื่องอย่างมากไปที่ 2,800,000 ล้านบาท ในปี 2030

กระแสดังกล่าวสร้างแรงผลักดันทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่โดยสตาร์ทอัพผู้ผลิตเนื้อทางเลือกรายใหญ่อย่าง Impossible Foods และ Beyond Meats ผ่าน Venture Capital และการ IPO ผ่านตลาดหลักทรัพย์ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ในปี 2019-2020

นอกจากสตาร์ทอัพแล้ว ผู้ผลิตเนื้อและอาหารรายใหญ่ระดับโลก Tyson Foods รวมถึงเชนฟาสต์ฟู้ดอย่าง Burgur King, McDonald’s, และ KFC ต่างได้เข้ามาในตลาดนี้ผ่านการออกเมนูเนื้อจากพืชอย่าง Impossible Whopper, McPlant, หรือ Beyond Fried Chicken กันอีกด้วย

ในขณะเดียวกันผู้นำตลาดในประเทศไทยอย่าง CPF และ Betagro ก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่าง MEAT ZERO และ Meatly! ตามลำดับในช่วงปี 2021-2022 ที่ผ่านมาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามูลค่าตลาดเนื้อจากพืชจะเติบโตอย่างมากในปี 2017 – 2020 โดยเฉพาะในสหรัฐฯที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า แต่หลังจากนั้นมูลค่าตลาดกลับไม่ได้เติบโตขึ้นอย่างที่นักลงทุนคาดหวัง โดยเฉพาะในปี 2021 และ 2022 ที่ยอดขายเนื้อจากพืชบนซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐฯไม่เติบโตเพิ่มขึ้นเลย ส่งผลให้มูลค่าบริษัทของ Beyond Meats ลดลงอย่างหนักกว่า 70% จากจุดสูงสุด

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เนื้อจากพืชไม่ได้รับผลลัพธ์อย่างที่คาดหวัง คือ
1. รสชาติและสัมผัสของเนื้อจากพืชที่ยังไม่ดีพอ ที่ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์จะพัฒนามาอย่างมากแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างประสบการณ์ที่เทียบเท่ากับเนื้อสัตว์จริงได้ จนมีคำกล่าวว่า ‘เนื้อจากพืชที่เกรดดีที่สุดมีรสชาติและสัมผัสที่เหมือนกับเนื้อสัตว์ที่เกรดแย่ที่สุด’
2. ราคาของเนื้อจากพืชที่แพงและเข้าถึงได้ยาก ที่โดยเฉลี่ยแล้วมีราคาสูงกว่าเนื้อสัตว์จริงถึง 2-3 เท่า ยิ่งทำให้ยากต่อการที่จะนำมาเป็นอาหารที่รับประทานบ่อยๆในชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม การชะงักการเติบโตของตลาดเนื้อจากพืชไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความล้มเหลวในอนาคต และไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าเนื้อสัตว์จริงจะครองตลาดไปได้เสมอ เพราะกระแสสุขภาพในหมู่ผู้บริโภค รวมถึงข้อกังวลด้านภาวะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศจากการทำเกษตรกรรม ยังคงอยู่และจะรุนแรงมากขึ้น

ทำให้ก้าวต่อไปของผู้ผลิตอาหารทางเลือกนั้น มุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเนื้อจากพืชให้ทัดเทียมทั้งด้านประสบการณ์และราคา รวมถึงมุ่งเป้าไปที่เทคโนโลยีใหม่อย่างการผลิตเนื้อจากเซลล์ หรือ ‘Cell-based Meat’ ที่เป็นการสร้างเนื้อจริงจากแล็บผ่านการเพาะเซลล์ ที่จะตอบโจทย์ด้านประสบการณ์ได้ทัดเทียมกับเนื้อสัตว์จริงในปัจจุบัน ซึ่งยังมีความท้าทายรออยู่อีกมากทั้งความสามารถในการขยายการผลิต ความสามารถในการลดต้นทุน รวมถึงความท้าทายทางด้านกฎหมายควบคุมทางด้านอาหารอีกด้วย

เวทมอร์
คัดสรรอาหารสัตว์คุณภาพสูง

Follow us on
ติดตามเราได้ที่

บทความที่คุณอาจสนใจ