สืบเนื่องจากปัญหาเนื้อหมูล้นตลาดจากการลักลอบนำเข้าและค้าเนื้อหมูเถื่อน จนเป็นการทำลายอาชีพของผู้เลี้ยงสุกรไทย นอกจากนั้นยังมีหมูลักลอบที่ตกค้างในท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 161 ตู้ทั้งหมด น้ำหนักกว่า 4.5 ล้านกิโลกรัม ทำให้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ได้เร่งเสนอแก้ไขกฎหมายคุมเข้มการลักลอบนำเข้า และเสนอให้กรมศุลกากร ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการเร่งทำลายชิ้นส่วนที่ผิดกฎหมาย เพื่อเป็นการการันตีว่าของกลางจะไม่หลุดออกไปข้างนอก
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 จึงได้เกิดการประชุมร่วมระหว่าง กรมศุลกากร สมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ และกลุ่มผู้เรียกร้องแก้ปัญหาหมูเถื่อน จากเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรกว่า 1,000 คน เพื่อหารือแนวทางแก้ไข
โดยมีประเด็นทั้งหมดที่ได้ข้อสรุปจากการประชุมร่วม ดังนี้
- เนื่องจากปัญหาหมูเถื่อนสร้างความเสียหายมาก ส่งผลกระทบต่อทั้งระบบเศรษฐกิจของประเทศ และเกษตรกรผู้เลี้ยงภายในประเทศ นโยบายของกรมศุลกากร คือ ทุกการกระทำที่มีความผิด รวมถึงตู้ที่ตกค้างอยู่นั้น คดีจะไม่จบที่กรมศุลกากร จะถูกส่งต่อไปที่สำนักงานสอบสวนกลาง
- ตู้เย็นคอนเทนเนอร์ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 161 ตู้ จะถูกแยกเป็นสองส่วน กรณีที่ 1 คดีถึงที่สุด กรมศุลกากรจะส่งให้กรมปศุสัตว์ทำลาย กรณีที่ 2 ตามนโยบายใหม่ตู้ตกค้างที่เหลือจะส่งให้สำนักงานสอบสวนกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
- เรื่องความโปร่งใส อธิบดีแจ้งว่าให้สบายใจได้ ทุกตู้เย็นคอนเทนเนอร์ที่เป็นหมูลักลอบตกค้างนั้น ปัจจุบันมีสถานะเป็น “ของกลาง” จะไม่หลุดรอดออกมาสู่ตลาดอย่างแน่นอน
- การดำเนินการนำเข้าสินค้าแช่เย็น แช่แข็ง ในอนาคตจะต้องมีการกำหนดกระบวนการปฏิบัติตามมาตรฐาน (SOP: Standard Operation Procedures) ใหม่ ซึ่งจะต้องโปร่งใสและมีการรายงานข้อมูลเชิงสถิติในเว็บไซค์ของกรมศุลกากรเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้
- จัดตั้งตัวแทนการทำงานร่วมกัน โดยประกอบไปด้วย คณะทำงานจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ตัวแทนกรมศุลกากร ตัวแทนกรมปศุสัตว์ ตัวแทนกรมการค้าภายใน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการทำงานแบบรวดเร็วและต่อเนื่อง
- การประสานงานต่อจากนี้ จะถูกยกระดับขึ้นเป็นในระดับกรมโดยตรง ที่กระทำผ่านตัวแทนคณะทำงานที่จัดตั้งขึ้น ไม่ใช่ระดับด่านหรือระดับจังหวัด เหมือนที่ผ่านมาในอดีต
- การนำเข้ากลุ่มสินค้าแช่แข็ง ต่อจากนี้จะต้องทำผ่านระบบ Red line เท่านั้น ไม่ผ่านระบบ Green Line เพื่อลดโอกาสในการหลุดรอดของการกระทำทุจริต
- ตู้ทุกตู้ที่อายัดไว้สามารถดำเนินการตรวจสอบได้โดยคณะกรรมการสมาคมร่วมกับกรมศุลกากรส่วนกลาง
- รายชื่อผู้นำเข้าที่เป็นคดีความ กรมไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เนื่องจากกรมจะส่งคดีไปที่กรมสอบสวน
กลาง การเปิดเผยได้หรือไม่อยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนที่กรมสอบสวนกลาง
หลังการประชุมร่วมกรมศุลกากร คุณสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ประชุม กับคุณ
นิพัฒน์ เนื้อนิ่ม หัวหน้าคณะทำงาน และคณะทำงานของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้นำนำข้อสรุปในประเด็นต่างๆ มาดำเนินการต่ออย่างเร่งด่วน เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด
