Author: Vetmore Admin

กระเทียมและอบเชย กระตุ้นสัตว์กินเยอะ อาหารมากสรรพคุณระดับโลก // โดย Vetmore เป็นที่รู้กันว่า กระเทียมเป็นส่วนผสมอาหารที่นิยมไปทั่วโลก ด้วยกลิ่นและรสชาติที่ทำให้อาหารอร่อยขึ้น และยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยมีประวัติการใช้เป็นยาแผนโบราณมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ หรือกว่า 5,000 ปีมาแล้ว เช่นเดียวกันกับ อบเชย หรือ ซินนามอน ถูกใช้ในการรักษาอาการไอและเจ็บคอมาตั้งแต่ยุคกลาง ในขณะที่อบเชยเคยเป็นต้องการและมูลค่าสูงจนถึงขนาดที่เคยถูกใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนกับเครื่องเงิน หรือแม้กระทั่งสงครามเพื่อแย่งชิงแหล่งอบเชยในสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งคือประเทศศรีลังกาในปัจจุบัน ในปัจจุบันที่พืชทั้งสองชนิดเป็นที่นิยมบริโภคไปทั่วโลก ประกอบกับเทรนด์สุขภาพที่เป็นที่นิยมมากขึ้น ส่งผลให้การเลือกกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นยา หรือ Nutraceutical เป็นหนึ่งในวิธีที่คนรักสุขภาพสนใจ Nutraceutical เป็นการรวมคำกันระหว่าง “Nutrition” และ “Pharmaceutical” ซึ่งหมายถึงการทานอาหารที่มีคุณลักษณะในการป้องกันโรคพร้อมกับการส่งเสริมสุขภาพที่ดี ความสนใจในอาหารกลุ่มนี้ไม่จำกัดเพียงเฉพาะอาหารในคน แต่ยังส่งผลไปถึงอุตสาหกรรมการเกษตรและปศุสัตว์ จากการถูกกฎหมายควบคุมการใช้ยาในปศุสัตว์ เนื่องจากความกังวลเรื่องยาตกค้างในอาหาร ข้อดีของการนำกระเทียมและอบเชยไปใช้ในฟาร์มปศุสัตว์ คือตอบโจทย์ด้านสุขภาพที่ทำให้สัตว์แข็งแรง ความสูญเสียต่ำ และยังกระตุ้นการกินจากกลิ่นที่ดึงดูด เพราะการเลี้ยงปศุสัตว์เราคาดหวังการกินที่มาก เพื่อผลผลิตที่สูงด้วย สารในกระเทียมและอบเชยมีประโยชน์มากอยู่หลายชนิด อย่างเช่น อัลลิซิน ในกระเทียม จะออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อก่อโรคได้ครอบคลุม ซินนามาลดีไฮด์ ในอบเชย มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และต่อต้านเชื้อก่อโรคเช่นกัน ประกอบกับกลิ่นของกระเทียมและอบเชยที่กระตุ้นการกิน ยิ่งส่งผลให้สัตว์กินได้มาก…

รู้จักกับสวัสดิภาพสัตว์ กระแสตลาดรักษ์โลกเพิ่มมูลค่าสูง // โดย Vetmore ปัจจุบันคนเรามองหาการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการตอบโจทย์ด้านความต้องการสัตว์ในการบริโภค และด้านจิตใจกับสัตว์ร่วมโลก เรื่องนี้อธิบายอย่างง่ายด้วย ‘ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์’ หรือ ‘Maslow’s hierarchy of needs’ เมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้ว มนุษย์หลายพื้นที่บนโลกยังต้องเสียชีวิตจากการขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค แต่แล้วความบากบั่นในการเอาตัวรอดของมนุษย์ ก็พาเรามาอยู่ในจุดที่มีอาหารเหลือกินเหลือใช้ พร้อมกับการแพทย์ที่ยืดอายุเราให้นานขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์ไม่ต้องกังวลเรื่องความต้องการพื้นฐาน ทำให้เรามีความต้องการด้านอื่นเพิ่ม เช่น อยากมีชีวิตที่ปลอดภัยขึ้น อยากเป็นที่ยอมรับของสังคม ชื่อเสียง ซึ่งเป็นเวลาที่มนุษย์กลับมานึกถึงสัตว์ร่วมโลกนั่นเอง สวัสดิภาพสัตว์ หรือ Animal Welfare เป็นคำที่ใช้เรียกร้องชีวิต ความเป็นอยู่ให้กับสัตว์ คนบางกลุ่มพยายามหลีกเลี่ยงการกินเนื้อ แต่คนอีกส่วนมากก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ จึงเกิดการหาจุดร่วมกันของการบริโภคสัตว์บนโลกใบนี้ หรือพูดให้ง่ายก็คือ หากจำเป็นต้องเลี้ยงสัตว์เพื่อกินแล้ว อย่างน้อยก็ให้สัตว์นั้นใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ถูกกดดันมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น การเลี้ยงไก่ไข่ไร้กรง หมูปล่อยทุ่ง การไม่ตัดหางลูกหมูหรือตัดเขี้ยว แม่หมูคอกรวม โดยหลักสำคัญจะเกี่ยวข้องกับการลดแรงกดดัน ความเครียด ความเจ็บปวดในสัตว์ ถ้ามองในเชิงธุรกิจ ในด้านหนึ่งจะถูกมองว่า หากต้องเลี้ยงแบบนั้น ผลผลิตจะเสียหายมาก ทำให้ขาดทุนได้ แต่อีกด้านหนึ่ง ฟาร์มที่ทำในพื้นฐานของสวัสดิภาพสัตว์ จะสามารถนำไปโฆษณา…